วันเสาร์, 21 ธันวาคม 2567

ประวัติโรงพยาบาล

ความภูมิใจ “กว่าจะมาเป็นโรงพยาบาลบัวใหญ่ของเรา”

เดิมมีฐานะเป็นสุขศาลาชั้น 2 ซึ่งเริ่มทำการครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2480 ที่บ้านตลาดเก่าตำบลบัวใหญ่ เนื่องจากสุขศาลาแห่งนี้อยู่ห่างจากย่านชุมชนที่ทำการคับแคบประชาชนในท้องถิ่นอำเภอบัวใหญ่จึงได้ช่วยกันบริจาค เพื่อสร้างศาลาแห่งใหม่(บริเวณที่ว่าการอำเภอปัจจุบัน) ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2500 ทางราชการได้จัดสรรงบประมาณสำหรับปลูกสร้างสถานีอนามัยชั้นที่ 1 โดยสร้างที่ดินทางด้านตะวันออกของสถานีรถไฟ ซึ่งที่ดินนี้ นายจันทร์ นางทองใบ คัมภิรานนท์ ได้มีจิตศรัทธาบริจาคให้กับกรมอนามัยมีเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่เศษ ร่วมกับ นางทองย้อย อบเชย บริจาคสมทบประมาณ 350 ตารางวา ลักษณธของสถานีอนามัยชั้นที่ 1 เป็นเรือนไม้ชั้นเดียว ขนาด 10 เตียง และในปี พ.ศ. 2501 ได้มีพยาบาลมาประจำการ 1 ท่าน การคมนาคมไปมาระหว่างสถานีอนามัยกับชุมชนค่อนข้างลำบาก โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน ถนนเฉอะแฉะ อีกทั้งยังไม่มีไฟฟ้าใช้

ในปี พ.ศ. 2509 ทางราชการแต่งตั้ง นพ.วิรัตน์ วาที มาดำรงตำแหน่งนายแพทย์ประจำสถานีอนามัยชั้นที่ 1 ซึ่งท่านเห็นว่าสถานีอนามัยแห่งนี้ได้ปลูกมาเกือบ 10 ปีแล้ว อยู่ในสภาพทรุดโทรม ประกอบกับสถานที่ตั้งไม่เหมาะสมอยู่ห่างจากย่านชุมชน การคมนาคมไม่สะดวก เพราะขณะนั้นได้มีการขยายสถานีรถไฟบัวใหญ่เป็นสถานีชุมทางบัวใหญ่-แก่งคอย เพิ่มรางรถไฟขวางทางระหว่างสถานีอนามัยกับย่านชุมชน

ต่อมา นพ. สงวน นิตยารัมพงศ์ ได้มีการนำเสนอจังหวัดเพื่อทูลฎีกาขอที่ดินสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชที่รับบริจาคที่ดินโฉนดเลขที่ 4336 ซึ่งมีอนาเขตติดต่ออยู่กับที่ดินโรงพยาบาบัวใหญ่เพื่อรองรับการให้บริการประชาชนที่มารับบริการเพิ่มมากขึ้นและทำการขยายเป็นโรงพยาบาลขนาด 60 เตียง ซึ่งต่อมา ในปี พ.ศ. 2527 ได้รับที่ดินเพิ่มอีก 45 ไร่ ในขณะนั้น นพ.สาธิต อาชานานุภาพ รักษาการผู้อำนวยการแทนได้ทำการขอขยายเป็นโรงพยาบาขนาด 60 เตียง และเมื่อเดือน มิถนายน พ.ศ. 2527 นพ.สาธิต ได้ไปศึกษาต่อจึงมี พญ.สุพัตรา ศรีวณิชชากร รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการแทนในช่วงนั้นได้มีการเริ่มโครงการอาสาสมัครกับพัฒนางาน สสม.(สาธารณสุขฐาน) ถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2527 นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ได้กลับจากลาศึกษาต่อมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลมีการขยายงานบริการภายในและงานสาธารณสุขมูลฐานและเริ่มโครงการกองทุนพัฒนาหมู่บ้าน

ในปี พ.ศ. 2528 ได้ขยายงานบริการผู้ป่วยในเป็น 60 เตียงและเริ่มมีเเพทย์มาประจำเป็น 6 คน มีการขยายงานโครงการพิเศษอื่นๆ ได้แก่ โครงการศูนยืบริบาลเด็กขาดสารอาหารระดับรุนแรง (ศูนย์เด็กจ่อย)